Search

'อดีตบิ๊กศรภ.'กาง 4 ข้อปม'เรือดำน้ำ'ถอยสุดซอย หวดเจ็บน่าเรียกร้องชะลอใช้หนี้'โกงข้าว'บ้าง - หนังสือพิมพ์แนวหน้า

was-trend-was.blogspot.com

วันพุธ ที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2563, 08.41 น.

‘อดีตบิ๊กศรภ.’กาง 4 ข้อปม‘เรือดำน้ำ’ถอยสุดซอย หวดเจ็บน่าเรียกร้องชะลอใช้หนี้‘โกงข้าว’บ้าง

2 กันยายน 2563 พล.ท.นันทเดช เมฆสวัสดิ์ อดีตหัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการพิเศษ ศูนย์รักษาความปลอดภัยแห่งชาติ (ศรภ.) โพสต์เฟซบุ๊ก “พลโท นันทเดช เมฆสวัสดิ์” หัวข้อ “กองทัพเรือ ถอยสุดซอยเรื่องเรือดำน้ำ” มีเนื้อหาดังนี้...

กองทัพเรือ ถอยสุดซอยเรื่องเรือดำน้ำ

ได้ฟังข่าวว่า กองทัพเรือยอมถอย เรื่องเรือดำน้ำ ก็ไม่ค่อยสบายใจครับ เพราะ มีเรื่องที่รัฐบาลและกองทัพเรือไม่กล้าจะพูดให้ผิดมารยาทอยู่ อยู่หลายเรื่องนะครับ

1.การซื้อเรือดำน้ำครั้งนี้ ชัดเจนว่าเป็นการซื้อที่ถูกต้องตามกฎหมายเพื่อประโยชน์ของชาติ ไม่มีการโกงเกิดขึ้น เพราะเป็นการซื้อตามระบบ จีทูจี จริงๆ ไม่เหมือน จีทูจี เรื่องข้าว ในสมัยคุณยิ่งลักษณ์ ที่มีคนติดคุกกันระนาว ยกเว้นพวกที่ทิ้งเพื่อนหนีไปอยู่เมืองนอกเสียก่อน

2.ประโยชน์ของเรือดำน้ำนั้น มีมหาศาล ทั้งการสำรวจใต้น้ำ , วางเคเบิ้ลใต้น้ำ ฯลฯ แต่เอาแค่เรื่องเดียวพอ เรือดำน้ำ เป็นเครื่องมือทางการรบเพียงชนิดเดียว ที่จะเฝ้าป้องปรามอยู่ในท้องทะเลสากลได้ยาวนาน ไม่ใช่เฉพาะในอ่าวไทย และมีประสิทธิ์ภาพทั้งการรับและการรุกเพื่อคุ้มครองพื้นที่ ไม่เช่นนั้นสิงคโปร์ที่มีพื้นที่ทางทะเล 3 ด้าน รวมความยาวแล้วยังสั้นกว่าพื้นที่ทางชายฝั่งของไทยเสียอีก แต่สิงคโปร์มีเรือดำน้ำถึง 6 ลำและมีแผนจะซื้อรุ่นใหม่อีก 2 ลำ เรือดำน้ำทำให้สิงคโปร์เป็น เมืองท่าทางการค้า โดยทุกชาติมั่นใจว่าเรือสินค้าทุกลำจะปลอดภัย ในเขตน่านน้ำสากล ที่ต่อเนื่องเข้าสู่เขตรับผิดชอบของสิงคโปร์

3.ถ้าจะถามว่าไทยเราไม่มีเรือสินค้าเทียบท่ามากเท่ากับสิงคโปร์ แล้วจะซื้อมาทำไมนั้น ขอตอบว่าในอนาคตถ้าเราสามารถทำให้เรือสินค้าที่จะเข้ามาในน่านน้ำไทยมั่นใจในความปลอดภัย เมื่อเทียบกับสิงคโปร์ ที่การขนส่งต่อระยะต้องผ่านมาเลเซียเพียงด้านเดียว จากนั้นจึงผ่านเข้ามาไทย แต่ถ้าเราสามารถทำให้เรือสินค้านานาชาติมั่นใจในความปลอดภัยได้ โอกาสที่จะดึงดูให้เรือสินค้า มาเทียบท่าเรือในไทยโดยตรง เพื่อกระจายสินค้าต่อไปได้ทั่วโลก ก็มีความเป็นไปได้สูง

4.ถ้าจะให้เข้าใจง่ายขึ้น คงเปรียบกับคนไทยซื้อปืนเก็บไว้ที่บ้าน เพื่อป้องกันตนเองและทรัพย์สิน ทั้งที่เรามีตำรวจทำหน้าที่ดูแลสวัสดิภาพของประชาชนอยู่แล้ว หรือที่เราต้องซื้อรถดับเพลิง ทั้งๆที่ไฟยังไม่ไหม้ อีกทั้งยังจ้างพนักงานดับเพลิงไว้ เสียงบประมาณปีละหลายร้อยล้าน หรือที่เรามีตำรวจตระเวณชายแดน ทั้งที่ตำรวจตามปกติก็มีนับแสนนาย หรือเราทุ่มเทติดกล้องวงจรปิดทั้งกรุงเทพนับหมื่นล้านบาท ติดไปทำไมล่วงหน้า

+ การขุดคลองกระ อังกฤษก็ห้ามไทยขุดมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 4 แม้สิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2 อังกฤษก็ยังยื่นเงื่อนไขสัญญาว่าไทยจะไม่ขุดคลองกระ เพื่อแลกกับสถานภาพการเป็นผู้ชนะสงคราม จากกรณีที่ จอมพล ป. ไปประกาศสงครามกับอังกฤษและพันธมิตร

ต่อมาก็มีมิตรประเทศบางประเทศ พยายามดองการสร้างสนามบินสุวรรณภูมิมานานนับ 10 ปี พอสร้าง ก็สร้างได้แค่ 1 ใน3 ของโครงการ

เรื่องเรือดำน้ำก็คล้ายคลึงกัน ไม่มีเรือดำน้ำ สิงคโปร์ก็ยังเป็นเมืองท่าหลักอยู่เช่นเดิม ไม่มีเรือดำน้ำเราก็ขุดคลองไทยไม่ได้

อย่าลืมว่าซื้อเรือดำน้ำวันนี้ อีก 6-7 ปีถึงจะได้นะครับ ไทยทุ่มทุนกับโครงการ EEC นับแสนล้าน สร้างงานให้คนไทยเท่าไหร่ แต่ไม่มีเรือดำน้ำ ไม่มีการพัฒนาศักยภาพทางทะเล รู้สึกแปลกๆมั๊ยครับ ประเทศไทย ซื้ออะไร แจกอะไร ได้สารพัด เงินวางมัดแค่ 3 พันล้าน ดันมีนักการเมือง และเด็กๆออกมาคัดค้าน แค่ระดับหมื่นคน ซึ่งเมื่อเปรียบกับเงินใช้หนี้โกงข้าว ที่ต้องใช้หนี้ปีละหลายหมื่นล้านบาท น่าจะมีการเรียกร้องให้ชะลอการใช้หนี้บ้าง

แล้วยังนโยบายรถคันแรกที่รัฐบาลสมัยนั้นออกให้ผู้ซื้ออีกคันละแสนบาท ต้องเป็นหนี้กี่หมื่นกี่แสนคัน เด็กจบออกมาต้องรีบซื้อรถเป็นหนี้ แทนจะเรียนต่อ

เรื่องแบบนี้ รัฐบาลน่าจะเอามาแฉบ้างนะครับ

เป็นความรู้ให้ "พลเมือง" ไทยสักหน่อย

...เหนื่อยนะครับ กับประชาธิปไตยสมัยนี้...




September 02, 2020 at 08:41AM
https://ift.tt/2YZSESC

'อดีตบิ๊กศรภ.'กาง 4 ข้อปม'เรือดำน้ำ'ถอยสุดซอย หวดเจ็บน่าเรียกร้องชะลอใช้หนี้'โกงข้าว'บ้าง - หนังสือพิมพ์แนวหน้า

https://ift.tt/3h4AeY4


Bagikan Berita Ini

0 Response to "'อดีตบิ๊กศรภ.'กาง 4 ข้อปม'เรือดำน้ำ'ถอยสุดซอย หวดเจ็บน่าเรียกร้องชะลอใช้หนี้'โกงข้าว'บ้าง - หนังสือพิมพ์แนวหน้า"

Post a Comment

Powered by Blogger.