เมืองไทย 360 องศา
แน่นอนว่าหลายคนอาจไม่เห็นด้วยกับหัวข้อที่นำเอาคนสองคนนี้ คือ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ กับ นายอภิรักษ์ ชัยอานนท์ หรือที่เรียกว่า “เสี่ยโป้” ขณะที่รายแรกก็อาจจะเรียกว่า “เสี่ยธร” หรือ “เสี่ยเอก” ตามชื่อเล่นของเขาก็ได้ เพราะหากวัดกันเรื่องทรัพย์สินเงินทองแล้ว รับรองว่า นาทีนี้ “เสี่ยโป้” ย่อมแพ้ “เสี่ยธร” ขาดลอย หรือไม่มีประตูสู้เลยก็แล้วกัน รวมไปถึง “ระดับ” หรือ “เกรด” ทั้งสองคน ที่บางคนอาจมองว่ามาเทียบกันไม่ได้ และเห็นว่า นายธนาธร มีระดับดีกว่า เพราะเคยเป็นถึงแคนดิเดตนายกฯ อยู่ในสังคมการเมือง อะไรประมาณนี้
แต่เอาเป็นว่าหากไม่ต้องเปรียบเทียบในเรื่องแบบนั้นก็ได้ เพราะสิ่งที่น่าจะต้องโฟกัส ซึ่งในที่นี้น่าจะเป็นเรื่องของ “ใจ” ของแต่ละคนว่า “แค่ไหน” เพราะอย่างที่บอกว่าในสถานการณ์แบบนี้จะมาใช้แบบ “ใจถึงพึ่งได้” มาใช้มันอาจพูดยาก เพราะที่มาที่ไปต่างกัน แต่ขณะเดียวกัน ในบางเรื่องบางสถานการณ์มันก็ทำให้สามารถมองเห็นอะไรบางอย่างในตัวของบางคนได้เหมือนกัน
เมื่อกลางดึกวันที่ 19 สิงหาคม ทั้ง นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ และ นายอภิรักษ์ ชัยอานนท์ ไปปรากฏตัวที่สถานีตำรวจนครบาลสำราญราษฎร์ ซึ่งจะว่าไปแล้วทั้งคู่ก็มีเป้าหมายในทางการเมือง ไม่ว่าจะทางตรงหรือทางอ้อม โดย นายธนาธร มาปรากฏตัวเพื่อต้องการให้เห็นว่าให้กำลังใจแกนนำผู้ชุมนุมคนหนึ่งที่ชื่อ นายบารมี ชัยรัตน์ ซึ่งถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตามหมายจับที่ถูกกล่าวหาว่าทำผิดหลายข้อหาอันเนื่องมาจากการชุมนุมของกลุ่มที่เรียกว่า “ประชาชนปลดแอก” โดยหนึ่งในข้อหาที่ว่าก็คือ ยุยงปลุกปั่นตาม มาตรา 116
ขณะที่ นายอภิรักษ์ ชัยอานนท์ นั้น บอกว่า ที่มาเพื่อต้องการพบกับนายธนาธร เพื่อขอพูดคุยประเด็นทางการเมือง โดยเฉพาะเพื่อไม่ให้ประชาชนฆ่ากันเอง ถ้ามีเหตุการณ์รุนแรง คนที่ตายคือประชาชน นักศึกษาอนาคตของชาติ ทำไมถึงไม่ออกมานำหน้า เพราะกลัวอะไรหรือเปล่า
“เราเป็นประชาชนคนหนึ่งที่มีสิทธิเหมือนเขา เราแค่ต้องการมาถาม ยืนยันไม่ได้ต้องการมาหาเรื่อง เราพูดในมุมว่าไม่ควรทำให้ประชาชนแตกแยกกันเอง แล้วทำไมไม่นำหน้า เพราะวันนี้ในโซเชียลฯ มีการพูดถึงสิ่งที่เรารักทุกคน”
ด้าน นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ กล่าวว่า ไม่ประสงค์จะพูดคุยกับนายอภิรักษ์ แต่อย่างใด และตนเองกำลังจะเดินทางกลับ เพราะมีภารกิจในช่วงเช้า การเดินทางมาในคืนนี้เนื่องจากต้องการพบ และให้กำลังใจผู้ต้องหาคนหนึ่งที่ถูกควบคุมตัวมาที่นี่แต่ถูกปฏิเสธจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ
อย่างไรก็ดี ก่อนหน้านั้น นายอภิรักษ์ หรือ “เสี่ยโป้” ที่ถือว่าเป็น “เน็ตไอดอล” ชื่อดังคนหนึ่ง ได้โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊กว่า “นั่งอยู่บ้านวิจารณ์ธนาธร” หลังจากนั้น ก็โพสต์อีกว่า “ไปคนเดียว แค่อยากรู้เรื่องสิทธิเสรีภาพ และพี่จะหาทางสันติวิธีอย่างไร แต่พี่ธรมองโป้แบบ …กลับบ้าน โป้เสียใจ”
เมื่อพิจารณาจากเหตุการณ์ในคืนวันนั้นระหว่าง นายอภิรักษ์ ชัยอานนท์ กับ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ที่เวลานี้เป็นหัวหน้ากลุ่มก้าวหน้า และอดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ และยังเชื่อว่าเชื่อมโยงอยู่กับพรรคก้าวไกลในปัจจุบัน ขณะเดียวกัน กรณีดังกล่าวเมื่อพิจารณาจากคำพูดของ นายอภิรักษ์ หรือ “เสี่ยโป้” ที่ต้องการสื่อสารกับ นายธนาธร นั้น เพราะเชื่อว่า นายธนาธร มีส่วนเกี่ยวข้องกับการชุมนุมของบรรดาเด็กนักศึกษา เยาวชน ในนามกลุ่ม “ปลดแอก” นั่นแหละ เพียงแต่ว่า “ไม่ออกหน้า” เท่านั้นเอง
ดังนั้น สิ่งที่ นายอภิรักษ์ หรือ “เสี่ยโป้” ต้องการมาถามให้หายข้องใจ ก็คือ “ทำไมไม่นำม็อบเอง” หรือคอยยุแยงให้ประชาชนแตกแยก ซึ่งอาจบานปลายเข่นฆ่ากันเองทำไม ...ความหมายน่าจะประมาณนี้ แต่สิ่งที่น่าสนใจก็คือ เชื่อว่าความเข้าใจ ความเชื่อของนายอภิรักษ์ คนนี้น่าจะเหมือนกับความเชื่อของคนอีกหลายคนว่า นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ กับพวกอยู่เบื้องหลัง หรือเกี่ยวข้องสนับสนุนม็อบของกลุ่มประชาชนปลดแอกไม่ทางใดทางหนึ่งอย่างแน่นอน
แน่นอนว่า หากวัดกันด้วย “ภาพลักษณ์” หรือเครดิต สำหรับ “เสี่ยโป้” คนนี้แล้วสังคมอาจมองว่ามีภาพ “สีเทา” อาจจะเกี่ยวข้องในเรื่องอบายมุข แต่ในบางเรื่องเขาก็มีมุมบวก มีคนชื่นชมในด้านของการให้ความช่วยเหลือเรื่องเงินกับคนที่เดือดร้อนจนเป็นที่รับรู้กันดี
ขณะเดียวกัน ก่อนหน้านี้ หากจำกันได้เมื่อครั้งที่ นายธนาธร กับพวกมีเคมเปญเปิดรับบริจาคเพื่อช่วยเหลือคนที่ได้รับผลกระทบจากโรคโควิด-19 ที่ย้ำว่า “ไม่ต้องพิสูจน์ความจน” ซึ่งก็รู้กันว่า เจตนาต้องการดิสเครดิตรัฐบาลที่ตอนนั้นถูกโจมตีเรื่องการแจกเงินเยียวยาที่ต้องพิสูจน์กันละเอียด แต่เอาเข้าจริงแล้วในการรับบริจาคของ นายธนาธร ในครั้งนั้น ก็มีเรื่องอื้อฉาว ที่ถูกกล่าวหาว่าไม่มีการแจกจริง ไม่ได้กระจาย รวมไปถึงไม่ได้มีการเปิดเผยผู้ที่ได้รับบริจาคว่าเป็นใครบ้าง เป็นต้น
ที่เชื่อมโยงไปถึง “เสี่ยโป้” ก็คือ ในตอนนั้นมีบรรดาผู้สนับสนุนของ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ โพสข้อความและโทรศัพท์ไปรบเร้าให้ “เสี่ยโป้” ร่วมบริจาคด้วย แต่เขาปฏิเสธ จึงถูกรุมกระหน่ำด่ารุนแรง ทำให้เขาประชดด้วยการ “บริจาคเงินหนึ่งบาท” จนเป็นที่พูดจากันอยู่พักหนึ่ง
ดังนั้น หากพิจารณากันแบบเชื่อมโยงมาถึงวันนี้ จากความเคลื่อนไหวของ “เสี่ยโป้” ก็เหมือนกับว่าเขา “รู้ทัน” นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ทำนองว่าเกี่ยวข้องกับม็อบ และเรียกร้องให้แสดงความกล้าหาญออกมา “นำหน้า” ด้วยตัวเอง อย่าแอบหลังเด็กๆ และสร้างความแตกแยกในหมู่ประชาชน และรู้ว่าหากเกิดเหตุบานปลายคนที่เจ็บตายก็จะเป็นประชาชนและเยาวชนที่เป็นอนาคตของชาตินั่นเอง
อีกทั้งที่น่าสนใจ ก็คือ คำพูดอีกคำหนึ่งของ “เสี่ยโป้” ที่ว่า “วันนี้ในโซเชียลฯ มีการพูดถึงสิ่งที่เรารักทุกคน” ถือว่าเขาก็รับรู้ว่าหมายถึง “ใคร” และทนไม่ได้ จนต้องออกจากบ้านมารอถาม นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หรือ “เสี่ยเอก” ด้วยตัวเอง แต่ก็ไม่ได้รับคำตอบนั่นแหละ แต่เอาเป็นว่าหากวัดกันนาทีนี้ถือว่า “เสี่ยโป้” ได้ใจคนไปไม่น้อย !!
August 21, 2020 at 01:53AM
https://ift.tt/31gHQ3X
เสี่ยโป้ vs เสี่ยธร ใคร “เจ๋งกว่า” !? - ผู้จัดการออนไลน์
https://ift.tt/3h4AeY4
Bagikan Berita Ini
0 Response to "เสี่ยโป้ vs เสี่ยธร ใคร “เจ๋งกว่า” !? - ผู้จัดการออนไลน์"
Post a Comment